วันศุกร์, สิงหาคม 29, 2551

رمضان


ศรัทธาชนที่เคารพ
ท่านทั้งหลายจงยำเกรงต่ออัลลอฮ จบปฏิบัติตามคำสั่งที่พระองค์ทรงใช้และออกห่างจากสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งห้าม ขณะนี้เราท่านทั้งหลายกำลังจะก้าวเข้าสู่รอมดอน เดือนอันมีเกียรติที่สุดเดือนหนึ่ง จากอายะห์กุรอานที่กล่าวเมื่อข้างต้นมีความหมายว่า
เดือนรอมดอนนั้น เป็นเดือนที่ อัลกุรอาน ได้ถูกประทานลงมาในฐานะเป็นข้อแนะนำสำหรับ มนุษย์ และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อ แนะนำนั้น และเกี่ยวกับสิ่งที่จำแนกระหว่าง ความจริงกับความเท็จ ดังนั้นผู้ใดก็ตามในหมู่พวกเจ้า เมื่อเข้าได้อยู่ในเดือนนี้แล้ว ก็จงถือศีลอดเถิด

ศรัทธาชนที่เคารพ
การถือศีลอดเป็นรุก่นหนึ่งจากรุก่นอิสลาม เป็นกฎเกณฑ์หนึ่งจากกฏเกณฑ์ศาสนา เป็นการอุทิศตนและเป็นการทำตนให้ใกล้ชิดกับอัลลอฮ์ตะอาลา แท้จริงพระองค์ทรงกำหนดให้มนุษย์ได้ทำการถือศีลอด และอัลกุรอานได้มีตัวบทบอกเอาไว้ว่าเดือนนี้เป็นเดือนที่มีการประทานอัลกุรอานลงมา กุรอานที่เป็นทางนำและแสงสว่างให้กับหัวใจของเรา อัลลอฮ์ได้กำหนดการถือศีลอดเพื่อเป็นการฝึกฝนขัดเกลา มารยาทอันประเสริฐ ให้บ่าวของพระองค์เป็นผู้มีความศรัทธา เป็นผู้ที่ยำเกรง เป็นผู้ที่มีคุณธรรม และการถือศีลอดนั้นได้ทำให้รับรู้ถึงความหิวกระหาย ของผู้คนที่ไม่มีอาหารจะกิน เป็นการแชร์ เป็นการแบ่งปันความรู้สึกของคนที่มีอันจะกินกับคนยากจน ทำให้เกิดความเข้าใจกันและกันของคนในสังคมเป็นอย่างดี และเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความรักความเอื้ออาทรต่อกัน

ศรัทธาชนที่เคารพ
อัลลอฮตะอาลาได้กำหนดการถือศีลอดในเดือนที่พระองค์ประทานอัลกุรอาน ลงมา เพื่อประโยขน์อันมหาศาลแก่บ่าวของพระองค์ มีผลในดุนยาและอาคิเราะห์ กล่าวคือ การถือศีลอดจะดูแลรักษาหัวใจ ทำให้หัวใจสมบูรณ์ จิตใจของมนุษย์เรานั้น โดยธรรมชาติแล้ว มันมีความต้องการอันมากมาย ความอยากได้ในหลายๆอย่างของมนุษย์ที่ ไม่มีขอบเขตจำกัดของความต้องการ เมื่อได้สิ่งหนึ่ง ก็จะต้องการอีกสิ่งหนึ่ง เรื่อยไป จนกระทั่งความต้องการนั้นมันได้ทำให้หัวใจมนุษย์นั้นอ่อนแอ โดยเฉพาะทางด้านวัตถุที่ส่งผลบีบบังคับต่อจิตใจของมนุษย์ ดังนั้นการที่มนุษย์ได้ทำการถือศีลอด จะทำให้เขาได้รับประโยชน์ในด้านต่างๆในการที่จะปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่จิตใจของเขาเกิดความบกพร่อง และทำให้จิตใจสูงส่ง การถือศีลอดเป็นการทำให้จิตใจของมนุษย์เข้มแข็งขึ้น ทำให้มนุษย์มีความยำเกรงต่อพระเจ้าอัลลอฮตะอาลาดำรัสว่า


يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ كُتِبَ عَلَيْكُمُ الصِّيَامُ كَمَا كُتِبَ عَلَى الَّذِينَ مِن قَبْلِكُمْ لَعَلَّكُمْ تَتَّقُونَ

บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การถือศีลอด นั้นได้ถูกกำหนดแก่พวกเจ้าแล้ว เช่นเดียวกับที่ได้ ถูกกำหนดแก่บรรดาผู้ก่อนหน้าพวกเจ้ามาแล้ว เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้ยำเกรง

ดังนั้นในเมื่อเดือนอันเป็นมงคลนี้กำลังจะย่างกรายเข้ามาแล้วเราจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อให้ทั้งร่างกายและจิตใจได้รับอานิสงค์ของเดือนนี้อย่างเต็มที่ และสำหรับการต้อนรับรอมดอนนั้นก็มีหลากหลายแบบ บางคนก็ได้ถือโอกาสตระเตรียมอาหารมากมายเต็มสำรับ เตรียมเครื่องดื่มราคาแพงมาดื่มหรือ หาอาหารที่ไม่เคยได้รับประธานในช่วงก่อนรอมดอนมาทานกันในตอนละศีลอด หรือบางคนใช้จ่ายเงินทองเพื่อจะซื้ออาหารมาละศีลอด หรือใช้จ่ายอย่างอื่นในช่วงรอมดอนนี้ มากกว่าเดือนอื่นๆสองเท่า นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในอัลกุรอานบอกเอาไว้ว่า


وكُلُواْ وَاشْرَبُواْ وَلاَ تُسْرِفُواْ إِنَّهُ لاَ يُحِبُّ الْمُسْرِفِينَ
ท่านทั้งหลาย จงกิน จงดื่ม และอย่าฟุ่มเฟือย แท้จริงพระองค์ไม่ทรงโปรดบรรดาผู้ที่ฟุ่มเฟือย

นอกจากจะไม่ฟุ่มเฟือยแล้ว ยังจะต้องหาอาหารที่มีประโยชน์มาบริโภคด้วยควรจะพิจารณาเลือกสรรอาหารที่ดี ที่สะอาด ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาละศีลอด


قال تعالي : كلوا من طيبات ما رزقناكم
พวกเจ้าทั้งหลายจงกินแต่สิ่งดีๆที่เราได้มอบให้กับพวกเจ้า


قال تعالي : كلوا مما في الارض حلالا طيبا
พวกเจ้าทั้งหลายจงกินแต่สิ่งดีซึ่งเป็นที่อนุมัติที่มีอยู่บนแผ่นดิน



อัลลอฮฺตะอาลาได้บัญชาใช้ให้เราเลือกรับประทานแต่สิ่งที่ดีๆ ท่านนบีมุฮำหมัด(ซอลฯ) เองท่านละศีลอดด้วยกับอิทนผาลัม หรือน้ำเปล่า ประโยชน์ของการทานอินทผาลัมก็คือกลูโคส หรือน้ำตาล และสารอาหารอื่นๆมากมายในผลอินทผาลัม อินทผาลัมมีความหวานมีผลเพื่อให้พลังงานแก่ร่างกายดังนั้นในช่วงรอมดอนควรทานอินทผาลัมมากๆเพราะร่างกายจะได้มีเรี่ยวแรงโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวันที่มีการงดอาหาร
มีฮาดีษของท่านอานัสบินมาลิก กล่าวว่า ท่านนบี(ซ.ล.)ได้ละศีลอดด้วยรุต๊อบ หรือ อินทผาลัมสด ถ้าหากไม่มีอินทผาลัมสด ท่านก็ละศีลอดด้วย ตะมัร คืออินทผาลัมแห้ง ถ้าไม่มีอินทผาลัมแห้ง ท่านก้อจะทำการดื่มน้ำหลายๆอึกแทน”


ดังนั้นน้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุด หรือเราอาจจะดื่มน้ำผลไม้ก็ได้ ที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือการบริโภคน้ำอัดลมทุกชนิด เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ยังเป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย การดื่มน้ำเปล่านอกจากจะช่วยดับกระหายแล้ว ยังเป็นการปรับสมดุลในร่างกาย อันเนื่องมาจากการอดอาหารมาตลอดทั้งวัน

หลังจากละศีลอดด้วยอินทผาลัมหรือน้ำเปล่าแล้ว ก็ควรไปทำละหมาดมัฆริบก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยกลับมาทานอาหารต่อ สำหรับอาหารก็ควรทานแต่พอดี อย่ากินจนอิ่มเกินไป จะทำให้รู้สึกเกียจคร้าน เพราะว่าอิบาดะห์ที่รออยู่ยังมีการละหมาดอิชาอฺ ละหมาดตะรอเวียะห์ และการอิบาดะห์ในยามค่ำคืน


จริงๆแล้ว อัลลอฮ์ตะอาลา ได้ฟัรดูการถือศีลอดมาเป็นการผ่อนคลายแก่มนุษย์ ให้กระเพาะอาหารได้พัก และเป็นการรักษาจิตใจให้เข้มแข็ง เป็นการฝึกความอดทน ทำให้ร่างกายของพวกเขามีสุขภาพที่ดีจากการอดอาหาร ทำให้จิตใจของพวกเขามีรัศมี ประโยชน์ของการถือศีลอดอีกประการหนึ่งก็คือเป็นการยับยั้งจากทุกสิ่งที่เป็นมั๊วะซิยัตความชั่วต่างๆ ทำให้ออกห่างจากสิ่งที่ไม่ดี และทำให้คุชัวอ์ ยำเกรงต่ออัลลอฮ และนอบน้อมต่อพระองค์ ใครก็ตามที่ไม่ได้ปรับปรุงตัวเองในการถือศีลอดของเขาก็เหมือนกันเขาไม่ได้ถือศีลอด...........................


ศรัทาชนที่เคารพ

รอมดอนคือเดือนแห่งความดี ดังนั้นพวกท่านจงปฏิบัติตัวให้อยู่ในความดี เพื่อพวกท่านจะได้รับผลบุญแห่งรอมดอนนี้ และท่านทั้งหลายจงละทิ้งสิ่งที่มันไม่ดีทั้งหลายเสีย และหันออกจากมัน ไปสู่ชีวิตที่สดใส เป็นเดือนที่ท่านนบีได้บอกเอาไว้ว่าประตูสวรรค์นั้นถูกเปิด ประตูนรกจะถูกปิด และชัยตอนจะถูกล่ามโซ่เอาไว้


ท่านทั้งหลายจงทราบเถิดว่า แท้จริงรอมดอนเป็นเดือนที่หาที่เปรียบไม่ได้ เป็นเดือนแห่งการเก็บ

เกี่ยวผลบุญ เป็นเดือนแห่งเกียรติยศ เป็นเดือนที่ความดีงามจะเพิ่มเป็นทวีคูณ เป็นเดือนที่ปฏิเสธความชั่วร้าย และเป็นเดือนแห่งการยกระดับความดี ท่านทั้งหลายทำการถือศีลอดในตอนกลางวัน และทำอิบาดะห์ในตอนกลางคืน จงใช้เวลาอันยาวนานในการทำความดี และจงอ่านกุรอานให้มากๆ แท้จริงท่านรอซู้ล(ซอลฯ)กล่าวว่า การถือศีลอดและอัลกุรอาน สองอย่างนี้จะช่วยเหลือบ่าวได้ในวันกิยามะห์


นอกจากจะอ่านแล้วท่านทั้งหลายจงทำความเข้าใจกับความหมายของอัลกุรอาน ควรเปิดอัลกุรอานที่แปลความหมายภาษาไทยเอาไว้บ้าง เราจะได้เข้าใจในสิ่งที่อัลกุรอานว่าไว้ และจงปฏิบัติตามสิ่งที่กุรอานได้บอกไว้ด้วย


ท่านทั้งหลายจงทำทานแก่คนยากจน คนที่ขัดสนและต้องการความช่วยเหลือ ท่านทั้งหลายจงประพฤติตนให้เป็นผู้ที่มีจรรยามารยาทดีงามดังเช่นท่านนบีของพวกเรา เพราะท่านนบีเป็นมนุษย์ที่ดีเลิศที่สุด


ศรัทธาชนที่เคารพ

จงพากเพียร จงอุตสาหะ ในการตออัต ในการทำอิบาดะห์ ในการฝึกฝนจิตใจ โดยการประพฤติความดี ขัดเกลาอบรมจิตใจให้เชื่อฟังอัลลอฮ์ เพราะพวกท่านจะเป็นผู้ที่ได้รับชัยชนะ ท่านทั้งหลายอย่าได้หยุด หรือประวิงเวลาการปฏิบัติฟัรดูที่พระองค์ทรงใช้ เพราะ วันเวลามันได้ผ่านเราไปอย่างรวดเร็ว และมนุษย์ทุกคนจะต้องถูกไต่สวนจากสิ่งที่มือของเขาได้รับ จากบันทึกความดีความชั่วของเขา ผู้ที่มีสติปัญญาคือผู้ที่ประดับประดา วันเวลาของเขาด้วยความดีงาม เพราะในท้ายที่สุดมนุษย์นั้นจะไม่มีอะไรติดตัวเขาเลยนอกจากความดี เพราะความดีก็คือความดี ความชั่วก็คือความชั่ว ไม่มีตรงกลางระหว่างความดีและความชั่ว


مَنْ عَمِلَ صَالِحًا فَلِنَفْسِهِ وَمَنْ أَسَاء فَعَلَيْهَا وَمَا رَبُّكَ بِظَلَّامٍ لِّلْعَبِيدِ


ผู้ใดกระทำความดีก็จะได้แก่ตัวของเขา และผู้ใดกระทำความชั่วก็จะได้แก่ตัวของเขาเอง และพระเจ้าของเจ้านั้นมิทรงอธรรมต่อปวงบ่าวของพระองค์

ท่านทั้งหลายจงยำเกรงต่ออัลลอฮ และจงฉวยโอกาสอันดีนี้ ปฏิบัติในสิ่งที่ยังประโยชน์แก่พวกท่าน เพื่ออัลลอฮ รอซู้ล และมุมินทั้งหลายจะได้มองเห็นการปฏิบัติอามัลของพวกท่าน และพวกท่านก็จะกลับไปสู่โลกแห่งความเร้นลับและโลกแห่งการยืนยัน ในสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติ ขอให้ท่านทั้งหลายได้รับความเมตตาและผลบุญอันเนื่องมาจากการทำอิบาดะห์ในเดือนรอมดอนที่กำลังจะมาถึง

ไม่มีความคิดเห็น: