วันพฤหัสบดี, เมษายน 27, 2549

กำเนิด “บ้านดอน”
หมู่บ้านหนึ่งซึ่งกล่าวถึงราวเรื่อง นามกระเดื่องเฟื่องไปไกลหนักหนา
ชื่อ “บ้านดอน” ดอนเหมือนชื่อเลื่องลือชา เที่ยวเสาะหาน้ำกินแทบสิ้นใจ
บ้านดอนนี้มิอยู่ที่สุราษฎร์ ขอประกาศตรงๆเผื่อหลงใหล
สุขุมวิทติดพร้อมพงษ์แล้วตรงไป แปดเสาไฟก็ถึงซึ่งบ้านดอน
ชนกลุ่มนี้มิอยู่เป็นหลักแหล่ง แตกแขนงจากที่หลายปีก่อน
จากตานีรี่กรุงมุ่งหวังจร สู่นครเมืองกรุงมุ่งทำกิน
พวกนี้หรือนับถือคือศาสนา อัลลอฮตะอาลาเป็นเจ้าเขาถวิล
มุฮำหมัดศาสดาคลาได้ยิน ให้ถือศีลทำละหมาดอย่าขาดกัน
ถากถางป่าในนี้มีไม่น้อย เป็นร้อยๆขึ้นไปใครขยัน
ถางได้มากเป็นของตัวชั่วนิรันดร์ ถากถางกันเข้าไปทำไร่นา
ครั้นต่อมาหลายปีมิปรากฏ น้ำมันลดดินมันแห้งแล้งหนักหนา
ต้องอพยพขึ้นเหนือเบื่อระอา สูงขึ้นมาจรดคลองต้องดวงใจ
คลองแห่งหนึ่งมีชื่อว่า “แสนแสบ” คลองมันแคบไร้ผู้อยู่อาศัย
ยุงก็ชุมรุมกัดกินแทบสิ้นใจ ใครผ่านไปยุงจะแหนบแสบทั้งตัว
ต่างทำนาเป็นหมู่กู้ฐานะ ไม่ลดละทำกันขยันทั่ว
แผ่สาขาออกไปหลายครอบครัว รู้กันทั่วชั่วคนว่า “บ้านดอน”


ฮัจยีอิรฟาน วงศ์ปถัมภ์......ผู้ประพันธ์
*********************************************************
ประวัติ “บ้านดอน”
ชุมชนบ้านดอนถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2367 หรือประมาณ 170 กว่าปีมาแล้วโดยมุสลิมกลุ่มหนึ่งซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดปัตตานี เข้ามาตั้งภูมิลำเนาเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่แถบถนนสุขุมวิทซอย 47 (ซอยบ้านดอน) ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดอน หมู่บ้านนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “บ้านดอน”
ต่อมาเมื่อมีคนมากขึ้น ความเป็นอยู่เริ่มลำบาก เนื่องจากทำเลของหมู่บ้านตั้งอยู่บนที่ดอน ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ การคมนาคมไม่สะดวก ชาวบ้านจึงร่วมใจกันย้ายหมู่บ้านมาอยู่ริมคลองแสนแสบ ซึ่งในบริเวณนั้นมีต้นไทรใหญ่มองเห็นได้ชัด คนทั่วไปจึงหันมาเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านต้นไทร” แต่ผู้ที่มาตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นคนที่ย้ายมาจากบ้านดอน จึงนิยมเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านดอน” เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อย้ายมาตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ ความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านเริ่มดีขึ้นตามลำดับ จนทุกคนคิดตั้งหลักแหล่งเป็นการถาวร และเมื่อมีชุมชน ก็ต้องมีมันญิดเพื่อใช้ประกอบศาสนกิจ ดังนั้นมัสญิดหลังแรกในชุมชนนามว่า “ดารุ้ลมัวะฮซินีน” จึงถือกำเนิดขึ้นจากพลังความศรัทธาของทุกคน โดยมีผู้ทำหน้าที่อิหม่าม จากอดีตจนถึงปัจจุบันดังนี้
1. ฮัจยีฮะ มุสตาฟา
2. ฮัจยีเซ็น หวังภักดี
3. ฮัจยีอับดุลเลาะห์ กระเดื่องเดช
4. ฮัจยีชม มุสตาฟา
5. ฮัจยีมุด มะลิ
6. ฮัจยีอุสมาน มะลิ อิหม่ามคนปัจจุบัน

วันเสาร์, เมษายน 15, 2549

  • فقد قال الله تعالي في كتابه العزيزوهو أصدق القائلين

لَقَدْ مَنَّ اللّهُ عَلَى الْمُؤمِنِينَ إِذْ بَعَثَ فِيهِمْ رَسُولاً مِّنْ أَنفُسِهِمْ يَتْلُو عَلَيْهِمْ آيَاتِهِ وَيُزَكِّيهِمْ وَيُعَلِّمُهُمُ الْكِتَابَ وَالْحِكْمَةَ وَإِن كَانُواْ مِن قَبْلُ لَفِي ضَلالٍ مُّبِينٍ
ศรัทธาชนที่รักและเคารพ
จงมีความยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ(ซบ.)ให้มาก และจงตระหนักว่าชีวิตเรานั้นได้เดินมุ่งหน้าสู่ความตายทุกขณะ เวลาได้ดำเนินเรื่อยมาโดยไม่มีการหยุดนิ่ง จากวินาทีสู่นาที จากนาทีสู่ชั่วโมง จากชั่วโมงสู่ วัน จากวันสู่สัปดาห์ จากสัปดาห์ สู่เดือน และจากเดือน สู่ปี เป็นอย่างนี้เรื่อยมาและเป็นอย่างนี้เรื่อยไปจนกว่าจะถึงวันอาคิเราะห์ และในขณะนี้ได้เราได้ย่างเข้าสู่เดือนเดือนหนึ่งที่ชื่อว่า เดือน “ربيع الأول” ซึ่งเดือนนี้เองมีวันสำคัญอยู่วันหนึ่ง เป็นวันที่มหาบุรุษแห่งสากลโลกได้ถือกำเนิด เกิดมาเพื่อเป็นแบบอย่างอันดีงามแก่มนุษยชาติ
ربيع الأول เป็น เดือนแห่งการรำลึกถึงท่านรอซูลุลลอฮ์(ศอลฯ) เดือนที่อัลลอฮ์ ได้ให้เรามีโอกาสมีชีวิตอยู่ และรำลึกถึงท่านศาสดาอีกครั้งหนึ่ง นับเป็นเกียรติแก่พวกเราเป็นอย่างยิ่ง ที่เดือนนี้ได้หวนกลับมาหาเราในครั้งนี้
เมื่อถึงวันเมาลิด เรา ในฐานะ ประชาชาติของนบีมุฮำหมัด(ซอลฯ) สามารถแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อท่านรอซู้ล(ซอลฯ)ได้ การแสดงออกถึงการรำลึกถึงท่านรอซู้ล(ซอลฯ) อาทิ เช่น การซอลาวาต ด้วยกับการกล่าว
"اللهم صل على سيدنا محمد"
หรือ เมื่อเราได้ยินใฅรก็ตามกล่าวนามชื่อของท่านศาสดา ก็ให้เรากล่าวว่า
"صلى الله عليه وسلم"
เพื่อเป็นการสรรเสริญท่านนบี
أَوْلَى الناسِ بِي يومُ القيامةِ أكثرُهم عليَّ صلاةً
มนุษย์ที่ดีที่สุดสำหรับฉัน ในวันกียามัต คือมนุษย์ ที่ซอลาหวาตต่อฉันมากที่สุด
من صَلَّى عليَّ صلاةً صلَّى اللهُ عليهِ بها عشْرا
“บุคคลใดที่ซอลาหวาดต่อฉัน ซอลาหวาดเดียว อัลเลาะห์จะทรงซอลาวาดให้เขา สิบซอลาหวาต”
ที่ว่าอัลลอฮจะทรางซอลาหวาดให้นั้น หมายถึงอัลลอฮจะให้ความเมตตาแก่เขานั่นเอง
และสิ่งที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อท่านรอซู้ล อย่างชัดเจนอีกประการหนึ่ง นั่นก็คือการปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮตะอาลา และเชื่อฟังท่านรอซู้ล
อุมมะห์ของท่านจะต้องมีจิตใจที่เปี่ยมล้นไปด้วย ความศรัทธาและยำเกรงต่ออัลลอฮ (ซบ.) เพื่อเป็นการน้อมรับต่อเจตนารมณ์ของท่านศาสดา ลิ้นของพวกเขาจะต้องพร่ำกล่าว สดุดี สรรเสริญ แก่ท่านศาสดา ผู้ที่ช่วยให้พวกเขาพ้นภัย ผู้ที่ได้ทำลายรูปปั้นให้หมดไปจากกะอ์บะห์ ผู้ที่ชี้นำเรา ผู้ซึ่งที่ทำให้เกิดความยุติธรรมขึ้นระหว่างชนชั้น แท้จริง ทุกๆคนนั้นเท่าเทียมกันหมดภายใต้ธรรมนูญแห่งอิสลาม
يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنَّا خَلَقْنَاكُم مِّن ذَكَرٍ وَأُنثَى وَجَعَلْنَاكُمْ )
شُعُوباً وَقَبَائِلَ لِتَعَارَفُوا إِنَّ أَكْرَمَكُمْ عِندَ اللَّهِ أَتْقَاكُمْ إِنَّ اللَّهَ عَلِيمٌ خَبِيرٌ)
“โอ้มนุษยชาติทั้งหลาย แท้จริงเราได้สร้างพวกเจ้าจากเพศชาย และเพศหญิง และเราได้ให้พวกเจ้าแยกเป็นเผ่า และตระกูลเพื่อจะได้รู้จักกัน แท้จริงผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่พวกเจ้า ณ ที่อัลลอฮ์นั้น คือผู้ที่มีความยำเกรงยิ่งในหมู่พวกเจ้า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงรอบรู้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ”

การมาของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศอล) เปรียบเสมือนแสงสว่างที่สาดส่องความมืดบอดให้หายไป ด้วยศาสนาที่ทำให้จิตใจมนุษย์ตื่นขึ้นจากการหลับใหล ท่านศาสดาเป็นตัวแทนแห่งความเมตตา ความยุติธรรม และเป็นผู้นำแห่งอารยธรรมของโลก
อัลลอฮตะอาลาทรงแต่งตั้งมุฮัมหมัดเป็นศาสดาองค์สุดท้าย
(مَّا كَانَ مُحَمَّدٌ أَبَا أَحَدٍ مِّن رِّجَالِكُمْ وَلَكِن رَّسُولَ اللَّهِ
وَخَاتَمَ النَّبِيِّينَ وَكَانَ اللَّهُ بِكُلِّ شَيْءٍ عَلِيماً)
( “มุฮัมมัดมิได้เป็นบิดาผู้ใดในหมู่บุรุษของพวกเจ้า แต่เป็นร่อซู้ลของอัลลอฮ์และคนสุดท้ายแห่งบรรดานบี ”
และสาส์น ของท่านศาสดาก็คืออัลกุรอานและซุนนะห์ ที่ได้กระจายไปสู่มนษยชาติ
และท่านศาสดากล่าวอีกว่า

كان كُل نبيٍ يُبعَث إلي قومه خاصة وبُعِثتُ إلي كل أحمروأسود
“ทุกๆ บรรดานบี หรือบรรดานบี ทั้งหลาย ได้ถูกแต่งตั่งมาสู่ประชาชาติของเขาโดยเฉพาะ แต่ฉันได้ถูกแต่งตั้งมาสู่ประชาชาติทั้งหลายไม่ว่า ชนผิวแดง ผิวดำ ”
ฮาดิษนี้ชัดเจนว่าท่านรอซู้ลนั้นถูกแต่งตั้งมาโดยมิได้เฉพาะแต่ชาวอาหรับแต่ท่านถูกส่งมายังชาวโลกทั้งหมด
แต่ศาสดาท่านอื่นๆ ท่านเหล่านั้น ได้ถูกแต่งตั้งมาเพื่อประกาศศาสนา แก่กลุ่มชนเฉพาะกลุ่ม อย่างเช่น ท่านศาสดานูฮ ถูกบัญชาให้ประกาศศาสนาแก่พวกบูชารูปปั้นเมื่อครั้งที่เกิดน้ำท่วมโลก
ศาสดาฮูด ถูกบัญชาให้เผยแพร่ศาสนาแก่พวกอาด
ศาสดาซอและห์ ก็ประกาศศาสนาแก่พวกซามูด
สำหรับ ชาวบนีอิสรอเอล ก็มี ศาสดาหลายท่านที่ถูกบัญชาให้เผยแพร่สัจธรรมแก่พวกเขา เช่น ท่านนบีมูซา นบีซักรียา ท่านนบียะห์ยา และท่านนบีอีซา อะลัยฮิมุซาลาม
แต่สำหรับ มุฮัมหมัด เขา คือศาสดาที่มาประกาศสัจธรรมแก่มวลโลกนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโลกของมนุษย์ และโลกของญิน
( وما أرسلناك إلارحمة للعالمين )
“ และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใด นอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย ”
(وَمَا أَرْسَلْنَاكَ إِلَّا كَافَّةً لِّلنَّاسِ بَشِيراً وَنَذِيراً وَلَكِنَّ
أَكْثَرَ النَّاسِ لَا يَعْلَمُونَ )
“และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใด เว้นแต่เป็นผู้แจ้งข่าวดีและเป็นผู้ตักเตือนแก่มนุษย์ทั้งหลาย แต่ว่าส่วนมากของมนุษย์ไม่รู้ ”
(قُلْ يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنِّي رَسُولُ اللّهِ إِلَيْكُمْ جَمِيعاً الَّذِي لَهُ مُلْكُ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ لا إِلَـهَ إِلاَّ هُوَ يُحْيِـي وَيُمِيتُ فَآمِنُواْ بِاللّهِ وَرَسُولِهِ النَّبِيِّ الأُمِّيِّ الَّذِي يُؤْمِنُ بِاللّهِ وَكَلِمَاتِهِ وَاتَّبِعُوهُ لَعَلَّكُمْ تَهْتَدُونَ)
“ มุฮำหมัด จงกล่าวเถิด โอ้มนุษย์ทั้งหลาย แท้จริงฉันคือรอซูลของอัลลอฮมายังพวกท่านทั้งมวล สำหรับพระองค์แล้วบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ไม่มีผู้ใดควรได้รับการเคารพสักการะ นอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงให้เป็นและทรงให้ตาย ดังนั้นพวกท่านจงศรัทธาต่ออัลลอฮและรอซูลของพระองค์ผู้เป็นนบีที่เขียนอ่านไม่เป็น ซึ่งเขาศรัทธาต่ออัลลอฮ และดำรัสทั้งหลายของพระองค์ และพวกเจ้าจงปฏิบัติตามเขาเถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับคำแนะนำ”
ศรัทธาชนที่เคารพ
แท้จริงท่านนบีมุฮัมมัด(ซอล) ได้นำศาสนาที่เป็นต้นแบบอันสมบูรณ์แก่มนุษย์ หลังจากที่ชีวิตของมนุษย์นั้นได้ พบกับความมืดมน ความป่าเถื่อน ท่านศาสดาเป็นต้นแบบของการประพฤติปฏิบัติอันดีงาม และเป้าหมายสำคัญของการประกาศศาสนา ก็คือ การทำให้มนุษย์ นั้นมีความยำเกรง ต่อพระผู้เป็นเจ้า นั่นคือจุดประสงค์ของการสร้างมนุษย์ ขึ้นมานั่นเอง
(وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ)
“และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า ”
ศรัทธาชาที่เคารพ
ร่างกาย อวัยวะทุกส่วนที่ได้งอกออกมานั้นไม่ใช่อื่นได้เลย นอกจากเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระเจ้า เพื่อที่จะได้รับผลบุญอันเนื่องมาจากความดี และ ได้รับการตอบแทนในวันกิยามะห์
ดังนั้นมนุษย์ทั้งหลาย จงดำรงชีวิตอย่างนบนอบ เชื่อฟังปฏิบัตตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด มีความเอื้ออาทร เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และ มุสลิมทุกคนจะต้องนำเอา ท่านนบีเป็นแบบอย่าง โดยนำ ชีวประวัติของท่านมาศึกษา และปฏิบัติ ดังเช่น บรรดาซอฮาบะห์ทั้งหลายได้ประพฤติปฏิบัติ ตามคำสั่งของท่านรอซูล ออกห่างจากสิ่งที่ต้องห้าม ยึดถือทำตามซุนนะห์ของท่านในทุกๆด้าน และเต็มเปี่ยมไปด้วย ความบริสุทธิ์ใจ ความรัก ความเอื้ออาทรเหล่านี้ เป็นแรงกระตุ้นให้จิตใจของเรามีความมุ่งมั่นปรารถนาที่จะยึดมั่นในคำสั่งให้ใช้ของอัลลลอฮ์ ตะอาลา และนบีมูฮำหมัด(ซอลฯ) ท่านนบีกล่าวว่า
( تركتُ فيكم ما إن تَمَسَّكتم به لن تَضِلُّوا مِن بعدى أبدا كتابُ الله وسنتى )
“ ฉันได้ทิ้งสองสิ่งไว้แก่พวกท่าน เมื่อท่านทั้งหลายยึดถือสิ่งนั้น ท่านทั้งหลายจะไม่หลงทางหลังจากที่ฉันไม่อยู่ นั่นก็คือ อัลกรุอานและซุนนะห์ของฉัน ”
เนื่องจากความเป็นมนุษย์ จึงมีจิตใจที่และความคิดที่อ่อนไหว และแปรปรวนได้ง่าย ดังนั้น มนุษย์จะต้องยึดเอา อัลกุรอาน ไว้ เพื่อเยียวยา และทำให้จิตใจสงบ ตามเจตนารมของท่านรอซูล(ซอลฯ) จำเป็นที่เรานั้นจะต้องศึกษาแนวทางที่ได้ถูกชี้นำไว้ ทำจิตใจของเราให้บริสุทธิ์ จงเปิดจิตใจ รับแสงสว่างแห่งสัจธรรม ปฏิบัติสิ่งถูกบัญชาใช้ อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน มิใช่ปฏิบัติบ้างไม่ปฏิบัติบ้าง ละหมาดบ้าง ไม่ละหมาดบ้าง ด้วยความคิดตามแบบพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นมุสลิมสายกลาง แต่ความจริงแล้วมุสลิมหรือมุอ์มินนั้นจะต้องทำตามคำสั่งใช้อย่างเคร่งครัด หากขาดตกบกพร่องก็ต้องเป็นไปด้วยเหตุสุดวิสัย ต้องปฏิบัติชดใช้ และขออภัยโทษต่ออัลลอฮ นั่นจึงจะเรียกได้ว่ามุอมินที่แท้จริง
(وَمَن يَتَّقِ اللَّهَ يَجْعَل لَّهُ مَخْرَجاً وَيَرْزُقْهُ مِنْ حَيْثُ لَا يَحْتَسِبُ وَمَن يَتَوَكَّلْ عَلَى اللَّهِ فَهُوَ
حَسْبُهُ)
“และผู้ใดยำเกรงอัลลอฮ์ พระองค์ก็จะทรงหาทางออกให้แก่เขา และจะทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่เขาจากที่ที่เขามิได้คาดคิด และผู้ใดมอบหมายแด่อัลลอฮ์ พระองค์ก็จะทรงเป็นผู้พอเพียงแก่เขา ”
พอเพียงแล้วที่มนุษย์จะยึดเอาอัลลอฮ เป็นผุ้ให้ทางนำ และผู้ช่วยเหลือ พอเพียงแล้วที่มนุษย์จะ ปฏิบัติตามท่านศาสดา ในฐานะที่เป็นผู้ แจ้งข่าวและเป็นผู้ที่สอนสั่ง
(وَأَطِيعُوا اللَّهَ وَأَطِيعُوا الرَّسُولَ فَإِن تَوَلَّيْتُمْ فَإِنَّمَا عَلَى رَسُولِنَا الْبَلَاغُ الْمُبِينُ)
“และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลลอฮ์ และจงเชื่อฟังปฏิบัติตามร่อซู้ล ถึงแม้พวกเจ้าผินหลังให้ (ไม่เชื่อฟัง) แต่หน้าที่ของร่อซู้ลของเราก็คือการเผยแผ่อันชัดแจ้ง ”

ศรัทธาชนที่เคารพ
ในเมื่อเราอยู่บนโลกใบนี้ โลกที่เต็มไปด้วยความชั่วช้า โลกที่เต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้าย ที่ศัตรูของอิสลามได้ฝังราก และแตกแขนงแผ่กิ่งก้านไปทั่วทุกมุมโลก เราในฐานะมุมิน ประชาชาติของท่านรอซู้ล จำเป็นอย่างยิ่งต้องปฏิบัตตนให้อยู่ในกรอบ สร้างเกราะป้องกันด้วยกับการศรัทธา ด้วยอิบาดะห์ และประพฤติตนให้มีคุณธรรม และจริยธรรม อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขในโลกนี้ และได้รับชัยชนะและความผาสุกในโลกอาคิเราะห์ ตามแบบอย่างแนวทางของท่านรอซู้ลมุฮำหมัด(ซอลฯ)